การเจาะคอ (Tracheostomy) คือการผ่าตัดใส่ท่อหลอดลมคอเข้าไปในหลอดลม เพื่อช่วยในการหายใจหรือระบายเสมหะในผู้ป่วยที่ไม่สามารถหายใจหรือไอเองได้ การดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคอจึงจำเป็นมากๆที่จะต้องได้รับ เพื่อไม่ให้เสมหะอุดตันทางเดินหายใจและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมา
ขั้นตอนในการดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคอ
- เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ประกอบด้วย
- สายดูดเสมหะ
- ถ้วยเก็บเสมหะ
- ถุงมือ
- ผ้าก๊อส
- น้ำเกลือ
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที
- ตรวจสอบท่อหลอดลมคอว่าอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ หากท่อหลอดลมคอหลุดหรือเคลื่อน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้
- ใส่สายดูดเสมหะเข้าไปในท่อหลอดลมคอ โดยให้ปลายสายดูดอยู่ลึกประมาณ 2-3 เซนติเมตร
- เปิดวาล์วดูดเสมหะและดูดเสมหะออกมา
- ปิดวาล์วดูดเสมหะและถอดสายดูดเสมหะออก
- ล้างทำความสะอาดสายดูดเสมหะด้วยน้ำเกลือ
ข้อควรระวังในการดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคอ
- ต้องล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการดูดเสมหะทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- ไม่ควรดูดเสมหะทันทีหลังรับประทานอาหาร เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยสำลักอาหารลงปอดได้
- ควรดูดเสมหะอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ท่อหลอดลมคอเคลื่อนหรือฉีกขาด
- หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอรุนแรง ควรหยุดการดูดเสมหะและรีบไปพบแพทย์
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ควรดูดเสมหะอย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง หรือบ่อยขึ้นหากเสมหะมากหรือเหนียว
- ควรฝึกให้ผู้ป่วยไอด้วยตัวเอง เพื่อช่วยให้สามารถขับเสมหะออกมาได้
- หากผู้ป่วยไม่สามารถไอด้วยตัวเองได้ อาจต้องใช้เครื่องช่วยไอ
การดูดเสมหะผู้ป่วยเจาะคอเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยที่ใส่ท่อหลอดลมคอ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้อย่างสะดวกและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หากผู้ดูแลผู้ป่วยมีความรู้และปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยให้การดูดเสมหะเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ